สหกรณ์ฯ ได้จัดให้มีทุนสาธารณประโยชน์ เพื่อส่วนหนึ่งจัดสรรเป็นเงินสวัสดิการสงเคราะห์ให้กับสมาชิก ซึ่งในปัจจุบันสหกรณ์จัดสรรทุนดังกล่าวเพื่อสมาชิกเป็น 2 ประเภท คือ |
1. ทุนสาธารณประโยชน์ เพื่อสงเคราะห์ศพ ในกรณีสมาชิกเสียชีวิต
สมาชิกผู้ใดถึงแก่กรรมในขณะที่เป็นสมาชิกอยู่ในสหกรณ์ ให้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์เกี่ยวกับการศพตามระยะเวลาการเป็นสมาชิก โดยการนับเวลาการเป็นสมาชิกให้นับเป็นปี เศษของปีให้นับเป็น 1 ปี โดยคำนวณให้ปีละ 5,000.00 บาท ทั้งนี้ระยะเวลาการเป็นสมาชิกสูงสุดไม่เกิน 30 ปี
*** การนับเวลาการเป็นสมาชิกให้นับเฉพาะเวลาที่เป็นสมาชิกติดต่อกันครั้งหลังสุด
สหกรณ์จะจ่ายเงินสงเคราะห์เกี่ยวกับการศพให้แก่บุคคล ผู้มีรายชื่อระบุให้เป็นผู้รับโอนประโยชน์ตามหนังสือที่สมาชิกได้ระบุไว้กับสหกรณ์ตามลำดับ หากไม่ระบุผู้รับโอนประโยชน์ให้ตกเป็นสิทธิแก่ทายาทโดยธรรม
เมื่อสมาชิกถึงแก่กรรมให้ผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์เกี่ยวกับการศพขอรับเงินสงเคราะห์ พร้อมทั้งแนบหลักฐานเอกสารใบมรณบัตรและทะเบียนบ้านภายในกำหนด 180 วัน นับแต่วันถึงแก่กรรม เมื่อพ้นกำหนดนี้แล้วเป็นอันหมดสิทธิในการรับเงินสงเคราะห์ เว้นแต่คณะกรรมการพิจารณาเป็นรายไป
สหกรณ์ย่อมทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะงดจ่ายหรือลดจำนวนลงน้อยกว่าหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ได้หากปรากฏว่า
- สมาชิกที่ขอรับการสงเคราะห์ถึงแก่กรรม เนื่องจากตนกระทำความผิดทางอาญา ยกเว้นการกระทำผิดโดยประมาท
- เงินทุนสวัสดิการซึ่งที่ประชุมใหญ่จัดสรรไว้ตามความในข้อบังคับของสหกรณ์หมดลงหรือมีจำนวนน้อยกว่าหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในข้อ 5 ซึ่งสมาชิกนั้นจะพึงมีสิทธิได้รับการสงเคราะห์
เอกสารประกอบการพิจารณา
- แบบขอรับสวัสดิการสงเคราะห์ศพ
- สำเนาบัตรประตัวข้าราชการหรือบัตรประจำตัวประชาชน ของสมาชิก และทายาทผู้รับประโยชน์
- สำเนาทะเบียนบ้านของสมาชิก(ระดับชำนาญการรับรอง)
- สำเนาทะเบียนสมรส ( ทายาทรับรอง)
- สำเนาใบมรณะบัตร (ระดับชำนาญการรับรอง)
- สำเนาหน้าสมุดบัญชีออมทรัพย์ธนาคาร ( ทายาทรับรอง)
หมายเหตุ
เอกสารของสมาชิกที่เสียชีวิตต้องมีคำรับรองของข้าราชการระดับชำนาญการขึ้นไปรับรอง
2. ทุนสาธารณประโยชน์ เพื่อทุนการศึกษาบุตรสมาชิก
- ระดับอนุบาล – ประถมศึกษา ทุนละ 2,000.-บาท
- ระดับมัธยมศึกษา ทุนละ 3,000.-บาท
โดยทุนการศึกษาดังกล่าวจะให้กับสมาชิกผู้มีรายได้น้อย ซึ่งหมายถึงเป็นสมาชิกที่มีเงินได้รายเดือนไม่เกิน 20,000.-บาท โดยผู้ขอรับทุนการศึกษาต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
- เป็นบุตรสมาชิก แต่ไม่รวมบุตรบุญธรรม
- มีความประพฤติเรียบร้อย
- กำลังศึกษาอยู่ในสถาบันศึกษาของทางราชการหรือสถาบันศึกษาเอกชนที่ทางราชการรับรอง
- ต้องไม่เป็นผู้ได้รับทุนการศึกษาอื่นใดในปีที่ยื่นคำขอรับทุน
- ต้องไม่เป็นผู้รับทุนส่งเสริมการศึกษาบุตรสมาชิกสหกรณ์ในรอบระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา
- สมาชิกคนหนึ่งมีสิทธิของรับทุนได้เพียง 1 ทุน ถ้าบิดาและมารดาต่างเป็นสมาชิกก็ให้ได้รับเพียง 1 ทุนเท่านั้น